ธนาคารแห่งประเทศไทย แสดงความเป็นห่วงเป็นใยในหัวข้อการทำหลักการของพรรคการเมืองต่างๆจะต้องทำอย่างระแวดระวัง โดยยิ่งไปกว่านั้นแผนการประชากรนิยมแบบทอดแห เพราะว่าแม้ว่าจะมีผลดีต่อเศรษฐกิจระยะสั้น แต่ว่าในระยะยาว จะสร้างผลพวงอย่างมากมาย
ข่าว ยิ่งใกล้วันออกเสียงแนวทางรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งของพรรคการเมืองต่างๆก็ยิ่งเป็นไปอย่างเข้มข้น โดยมีลักษณะของการ “ลด” แล้วก็ “แจก” อย่างแจ่มแจ้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลักการที่เกี่ยวกับการ “ลดค่าไฟฟ้า” หรือ “การแจกเงิน” ในลักษณะต่างๆแม้กระทั้งละพรรคจะอุตสาหะชี้แจงถึงที่มาของแหล่งเงิน ซึ่งจะใช้ประโยชน์สำหรับการทำหลักการ แต่ว่าหากถามความคิดเห็นของนักวิชาการหรือนักเศรษฐศาสตร์แล้ว จำเป็นต้องพูดว่ายังมีปริศนาตัวโตๆอยู่หลายจุด ถึงความน่าจะเป็นไปได้และก็ความไม่มีเหตุผล! ปัจจุบัน ธนาคารชาติ (ธนาคารแห่งประเทศไทย) ได้ออกมาแสดงความห่วงใยในหัวข้อนี้เช่นเดียวกัน โดย ดร.เศรษฐความเจริญ สุทธิวาทนฤความสมบูรณ์ ผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย เตือนว่า แนวทางการทำแผนการของพรรคการเมืองต่างๆจำต้องทำอย่างรอบคอบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลักการประชาชนนิยมแบบทอดแห เนื่องจากแม้ว่าจะเป็นผลดีต่อเศรษฐกิจระยะสั้น แม้กระนั้นระยะยาวแล้วสร้างผลกระทบแล้วก็ผลพวงมากมาย วิธีการทำหลักการรูปแบบนี้ก็เลยจะต้องมองว่าได้คุ้มเสียไหม ซึ่งถ้าหากมองเศรษฐกิจไทยเดี๋ยวนี้มองไม่เห็นสิ่งที่ต้องการที่จำเป็นต้องออกแผนการกระตุ้น เนื่องมาจากเศรษฐกิจไทยสามารถฟื้นได้ตลอดจากภาคการท่องเที่ยว พวกเราต้องการเชิญนักอ่านทวนความจำกันนิดหน่อยถึงประเทศที่โหมประชาชนนิยมแบบสุดขั้ว จนถึงในที่สุดไม่มีผู้ใดจบงามซักราย
เริ่มจาก “ประเทศอาร์เจนตินา” ซึ่งเป็นบทเรียนอย่างยอดเยี่ยมให้หลายๆประเทศ ด้วยเหตุว่าอดีตกาลเคยเป็นมหาอำนาจด้านเศรษฐกิจติด 1 ใน 10 ประเทศมั่งคั่ง
แต่ว่าในที่สุดพังครืนจากวิกฤติเงินเฟ้อขั้นร้ายแรง และก็หนี้สินสาธารณะที่ล้นล้น ต่อมาเป็น“กรีซ” ที่ดำเนินแนวนโยบายประชากรนิยมแบบเต็มขั้น ในที่สุดก็พบกับวิกฤติด้านการเงินอย่างหนัก จนถึงจำเป็นต้องขอร้องจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (กองทุนการเงินระหว่างประเทศ) ในตอนท้าย อีกประเทศที่เป็นบทเรียนให้กับพวกเราได้อย่างยอดเยี่ยมเป็น“เวเนซุเอลา” อดีตกาลเคยรวยจากการขายน้ำมัน แต่ว่าเมื่อรัฐบาลปรารถนาเอาอกเอาใจสามัญชน ตั้งขึ้นเมืองผลประโยชน์ นำงบประมาณมากมายไปทุ่มกับประชาชนนิยมเพื่อหวังคะแนนเสียงด้านการเมือง ข่าวเศรษฐศาสตร์ ทั้งยังการอุ้มราคาน้ำมัน ลดค่าไฟ ในที่สุดก็จบไม่สวย พบเจอกับหายนะเมื่อราคาน้ำมันปรับนิสัยต่ำลง ขาดเงินมาดูแลประชากร จนกระทั่งจะต้องเลือกใช้แนวทางพิมพ์เงินขึ้นมาเองแบบไม่ยั้ง และแพร่กระจายไปสู่วิกฤติเงินเฟ้อเปลี่ยนเป็นตำราเรียนชั้นเยี่ยมให้กับนักเศรษฐศาสตร์ ย้อนกลับมามองเมืองไทย ถ้าเกิดดูจากแนวทางรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งของพรรคการเมืองต่างๆแล้ว จำต้องพูดว่า น่าวิตกไม่น้อย หากแม้หลายพรรคจะบ่งบอกถึงหนทางการหารายได้เพื่อมาทำแนวทางดังที่ออกหาเสียงไว้ แต่ว่าก็จะต้องไม่ลืมเลือนว่า พวกเราควรจะเก็บ “ลูกกระสุนปืน” ไว้จัดการกับวิกฤติการคลังโลกครั้งใหม่ ซึ่งในขณะนี้เริ่มเคาะประตูที่อยู่หน้าบ้านแล้ว ไม่ว่าจะเป็นวิกฤติหนี้สินสาธารณะของสหรัฐที่สูงจนกระทั่งจะทะลุเพดาน 130% วิกฤติอสังหาริมทรัพย์ทั่วทั้งโลกที่ข้อมูลของ บลูมเบิร์ก กล่าวว่า มีหนี้สินกว่า 1.75 แสนล้านดอลลาร์ ที่กำลังประสบพบปัญหาปัจจุบันนี้ รวมทั้งวิกฤติยอดอาจค้างบัตรเครดิตของคนประเทศอเมริกาที่พุ่งทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์มาอยู่ที่ 9.86 แสนล้านดอลลาร์ ถ้าหากเศรษฐกิจสหรัฐกำเนิดปัญหา ลุกลามไปสู่ประเทศอื่นๆทั่วทั้งโลก พวกเราก็คงจะหนีไม่พ้นด้วยเช่นเดียวกัน …ในช่วงเวลานี้อาจจะจะต้องถามดังๆว่า พวกเรามีลูกปืนเพียงพอจัดการกับวิกฤติกลุ่มนี้ไหม!
แนะนำข่าวเศรษฐศาสตร์ อ่านเพิ่มเติมคลิ๊กเลย : สแตนชาร์ดมอง ศก.ครึ่งปีหลังโตดี ท่องเที่ยว-การเมืองหนุน
