
ภาพน่ารักน่าเอ็นดูของ เซียร่า รวมทั้ง ฮาร่า หมาชนิดโกลเด้น รีทรีฟเวอร์ กลุ่มค้นหา USAR Thailand สำหรับเพื่อการปฏิบัติหน้าที่หาผู้หายสาบสูญ
สัตว์เลี้ยง เรื่องแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในประเทศประเทศตุรกี เมื่อเร็วๆนี้ ได้รับชื่นชอบ จนกระทั่งมีการมอบรางวัลศักดิ์ศรี “ย่าเหล ชมเชย” แม้กระนั้นในกระบวนกฝึกหัดหมา มีขั้นตอนฝึกหัดสลับซับซ้อน จะต้องใช้ความทรหดอดทนกว่า 2 ปี ก่อนที่จะได้ปฏิบัติภารกิจในสนามจริง สุทธิเกียรติยศ โสภณิก หัวหน้าชุดหมาค้นหารวมทั้งช่วยเหลือ มูลนิธิสงวนเพื่อสภาพแวดล้อมแล้วก็สังคม พูดว่า การฝึกหัดหมาช่วยค้นหาในเหตุภัยพินาศ อาทิเช่น อาคารกระหน่ำ แผ่นดินไหว มีการฝึกฝนต่างจากหมาทั่วๆไป จะต้องใช้ความทรหดอดทนของผู้ควบคุม แล้วก็หมาควรมีสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรง ช่วงเวลาเดียวกันหมาเองควรมีความสามารถพิเศษ สำหรับในการรู้กลิ่น สายตาตรวจค้นหาที่ต่างจากตัวอื่น รวมทั้งความถนัดการฟังเสียง ถ้าหมามีส่วนประกอบนี้ นับว่าเป็นหมา มีความพิเศษ ซึ่งไม่เกี่ยวกับสายพันธุ์ “ถ้าหากหมาไม่มีใจรักสำหรับการค้นหา ฝึกหัดไปเท่าไรก็ไม่เป็นผล
สิ่งจำเป็นของสุนัขที่ถูกฝึกนี้ สามารถใช้ประสาทสัมผัสทั้งหมดที่มีอยู่ในตัวให้มีคุณภาพสูงสุด หมามีประสาทการได้กลิ่น มากยิ่งกว่าคน
แต่ว่าคนมีความฉลาดปราดเปรื่องมากยิ่งกว่า ด้วยเหตุนี้ผู้ที่ควบคุมหมา ข่าวสัตว์เลี้ยง จำต้องทำยังไง ให้หมาใช้จมูกดม และก็การได้ยิน มากขึ้นจากความปกติ ดังเช่น ในห้องที่ปิดไฟมืด คนเข้ามามองไม่เห็นอะไร แต่ว่าถ้าเกิดหมาเข้ามา จะแปลงประสาทสัมผัสจากการมองมองเห็นมาเป็นการได้กลิ่น” จากประสบการณ์ฝึกหัดหมาสำหรับเพื่อการค้นหามากมายว่า 20 ปี พบว่า หมาใช้ประสาทสัมผัสผ่านดวงตาก่อน แม้ไม่เห็นจะใช้การดม อาทิเช่น การค้นหามนุษย์ในเรื่องดินโคลนกระหน่ำ ร่างผู้ได้รับภัยมักถูกฝังเอาไว้ภายในโคลน แต่ว่าถ้าหากใช้หมาค้นหา ผู้ควบคุมจะสั่งให้หมาใช้การดม เพื่อค้นหาผู้หายสาบสูญแทน สำหรับเพื่อการค้นหาในป่า แม้เป็นตอนๆยามค่ำคืน ใช้หมาสำหรับในการค้นหาได้มีคุณภาพ เพราะว่าเวลากลางคืนอากาศเย็น หมาจะรู้สึกสบายตัวกว่า เมื่ออากาศเย็น กลิ่นต่างๆจะไม่ลอยขึ้นสูง ทำให้การสูดดมมีความเที่ยงตรง ที่สำคัญดวงตาหมาจะแลเห็นสีขาวกับดำได้ดิบได้ดี ทำให้หมาสามารถเห็นในเหตุการณ์ทึบแสงได้ดีมากยิ่งกว่ามนุษย์ แม้กระนั้นไม่เหมาะสมกับการค้นหากึ่งกลางซาก เพราะเหตุว่าหมา และก็ผู้ควบคุมบางทีอาจเกิดอันตรายจากเศษอุปกรณ์
แนะนำข่าวสัตว์เลี้ยง อ่านเพิ่มเติมคลิ๊กเลย : ไปส่อง “ช้างป่า” ที่อำเภอ “กุยบุรี”